แม้รสหวานจะช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้กับอาหาร
แต่ถ้าบริโภคในปริมาณมากจะทำให้เกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง
เป็นของแถมตามมาได้
ดังนั้นวิธีง่ายที่สุดและเห็นผลในการลดน้ำหนักและพลังงานคือกินน้ำตาลโดยลดปริมาณน้ำตาลลงทีละน้อย
เช่น ลดปริมาณน้ำตาลในชา กาแฟ หรืออาจใช้น้ำตาลเทียม เลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง
1.อย่าหลงคารมคำโฆษณาว่าเป็น
"น้ำตาลสุขภาพ" เพราะไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลชนิดใดก็ล้วนให้พลังงานเท่ากัน
2.รับประทานผลไม้แทนขนมหวาน
เพราะผลไม้มีวิตามิน แร่ธาตุ และมีเส้นใยอาหารที่ช่วยลด หรือชะลอการดูดซึมน้ำตาล
และคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอ้วน แต่ควรจำกัดปริมาณเพียงวันละ 2 อุ้งมือ
เพราะในผลไม้ก็มีน้ำตาลอยู่ด้วย และเลี่ยงดื่มน้ำผลไม้
เพราะจะได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการ
3.ลดหรือกำจัดคาร์โบไฮเดรตแปรรูป
จำพวกขนมปังและเบเกอรี่ ซึ่งจะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลในเลือดได้เร็วพอๆ
กับการกินกลูโคส นอกจากนี้คาร์โบไฮเดรตที่เหลือใช้จะถูกเก็บสะสมเป็นไตรกลีเซอไรด์
ซึ่งเป็นไขมันที่ร่างกายเก็บเป็นเสบียง
4.ระวังของว่างไร้ไขมัน
จากความเชื่อผิดๆ ที่ว่า ถ้าอาหารไร้ไขมันจะไม่ทำให้อ้วน ความจริงอาหารไร้ไขมันยังมีน้ำตาลและปริมาณแคลอรีสูง
5.อ่านฉลากอาหารเพื่อค้นหาน้ำตาลและไขมันไม่ดี
สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน อาจใช้สารความหวานชนิดที่ให้พลังงานต่ำ
ซึ่งมักระบุไว้บนฉลากว่า "ปราศจากน้ำตาล" หรือ "sugar free"
6.ระวังการใช้สารให้ความหวานเทียมหรือสารทดแทนความหวานมากเกินควร
เพราะอาจทำให้ร่างกายมีความอยากน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตมากขึ้น
7.คำนวณปริมาณน้ำตาล
โดยอ่านข้อมูลโภชนาการที่แสดงปริมาณน้ำตาลทั้งหมด เป็นกรัมแล้วหารด้วย 4
จะได้เท่ากับจำนวนน้ำตาลที่กินเข้าไปเป็นช้อนชา
ในสาระที่คล้ายกันยังมีของแถมดีๆ
อีกข้อ นั่นคือเป็นความรู้ใหม่ๆ ที่เราไม่เคยสังเกตและอยากรู้
ความหมายของสีที่ปลายหลอดครีมต่างๆ ซึ่งไขปริศนาได้ดังนี้
สีน้ำเงิน=สารธรรมชาติ/สีแดง=ผสมผสานระหว่างสารธรรมชาติกับเคมี /สีดำ=
ส่วนประกอบจากเคมี
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
แสดงความคิดเห็น